วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ปดู ทะเลแหวก Unseen Thailand

ปดู ทะเลแหวก Unseen Thailand

ไปดู ทะเลแหวก Unseen Thailand

อ่าวนาง

ทะเลแหวก

ทะเลแหวก

ทะเลแหวก
ทะเลแหวก 
ทะเลแหวก

ทะเลแหวก
ทะเลแหวก
ทะเลแหวก

ทะเลแหวก
ทะเลแหวก

ทะเลแหวก
ทะเลแหวก
ทะเล


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ kidsanook

          ขึ้นชื่อว่า Unseen Thailand ก็คงจะไม่ธรรมดาหรอกจริงมั้ย และนี่คือสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง ที่โดนการันตีเอาว่าเป็นสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย นั่นก็คือ ทะเลแหวก ในหมู่เกาะอันสวยงามของ จังหวัดกระบี่ ซึ่งกระปุกดอทคอมจะพาเพื่อน ๆ เลียบเลาะชายฝั่ง ไปสัมผัสความมหัศจรรย์และความงามของ ทะเลแหวก กันค่ะ...

          ทะเลแหวก เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจาก อิทธิพลของน้ำขึ้นและน้ำลง ทำให้สันทรายของเกาะทั้ง 3 คือ เกาะทับ เกาะหม้อ และ เกาะไก่ ปรากฏขึ้นกลายเป็นหาดทรายขาว เชื่อมกันทั้งสามเกาะอย่างน่าอัจศจรรย์ โดยจะเกิดเฉพาะในวันก่อนและหลังวันขึ้น 15 ค่ำ ราว 5 วัน ทำให้สามารถเดินเล่น ไป - มา ได้ระหว่างเกาะ

 
ทะเลแหวก
 
 ทะเลแหวก

ทะเลแหวก
 
 ทะเลแหวก
          ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวคือช่วงเดือน ธันวาคม ถึงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี ด้วยหาดทรายที่ขาวสะอาด ทอดยาว ความสวยงามของทั้งสามเกาะนี้ จึงทำให้ ทะเลแหวก หลายเป็น Unseen Thailand อีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย 

          นอกจากนี้ บริเวณ เกาะไก่ และ เกาะทับ ยังเป็นจุดดำน้ำตื้นที่น่าชม โดย เกาะไก่ เป็นจุดดำน้ำอยู่ที่บริเวณด้านทิศตะวันตก และที่ เกาะทับ มีแนวปะการังที่สวยงามอยู่ทางด้านทิศตะวันออก

ทะเลแหวก

ชายหาดทะเลระยอง article

ชายหาดทะเลระยอง article
 หาดสวนสน-บ้านเพ
บริเวณสวนสนในอดีตบริเวณนี้จะเป็นป่าสน ซึ่งมีต้นสนทะเลขึ้นเป็นจำนวนมากตลอดสองข้างทาง และถ้าเป็นช่วงมีลมมรสุมเข้าทะเลระยองด้วยแล้วล่ะก้อ สวนสนจะเป็นสถานที่ที่มีความเสี่ยงอันตรายสูง เนื่องจากต้นสนเป็นไม้เนื้ออ่อนเมื่อโดนลมพายุแรงๆ อาจทำให้ต้นไม้ฉีกขาดได้ และในบางครั้งจะล้มลงมาบนถนนที่รถกำลังวิ่งอยู่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ แต่ในปัจจุบันนี้จำนวนต้นสนได้ลดจำนวนลงอย่างมาก เนื่องจากมีการปรับพื้นที่เป็นร้านค้าและที่พักต่างๆ แต่ยังพอมีให้เห็นบ้างในช่วงสั้นๆระหว่างการเดินทางไปบ้านเพ ซึ่งแนวสนสองข้างทางที่เหลืออยู่ในระยะทางสั้นๆนี้ ช่วยทำให้เกิดร่มเงาและลดความร้อนของอากาศริมทะเลไปได้เยอะทีเดียว ด้วยเหตุผลนี้ทำให้สวนสนเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว 

 แหลมแม่พิมพ์อยู่ห่างจากตัวเมืองระยอง 48 กิโลเมตร จากถนนสุขุมวิทมีทางแยกขวาไปแหลมแม่พิมพ์ ถึง 3 แห่ง ด้วยกัน คือ กม. 259.5 กม. 263 และกม. 268 ผ่าน อนุสาวรีย์ สุนทรภู่ ไปอีก 5 กิโลเมตร หรือ ห่างจากวังแก้ว ตามถนน เลียบชายหาดไปอีก 11 กิโลเมตร หาดแม่พิมพ์เป็นหาดทรายที่ยาว ขาวสะอาด มีธรรมชาติที่สวยงาม เหมาะแก่การเล่นน้ำ คลื่นไม่แรง มีบริการโรงแรม,บังกะโล, กิจกรรมชายหาด และร้านอาหารตลอดแนวชายหาด 
 หาดแม่รำพึง - บ้านก้นอ่าวตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด เป็นหาดทรายชายทะเลฝั่งแผ่นดินใหญ่ที่ขาวสะอาด และยาวที่สุดของฝั่งทะเลด้านตะวันออกของจังหวัดระยอง เป็นหาดทรายที่มีความลาดชันน้อย อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตั้งแต่เชิงเขาแหลมหญ้าทอดตัวออกไปยาวถึง 12 กิโลเมตร เป็นสถานที่เหมาะแก่การเล่นน้ำบริเวณชายหาดร่มรื่นด้วยต้นไม้ เหมาะแก่การพักผ่อน อยู่ห่างจากบ้านเพ ประมาณ 6 กิโลเมตร และห่างจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 ประมาณ 9 กิโลเมตร และห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 500 เมตร สุดชายหาดเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านก้นอ่าว การลงเล่นน้ำบริเวณนี้ ต้องหลีกเลี่ยง บริเวณพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ ติดป้ายเตือน ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเอง
 หาดแหลมเจริญตั้งอยู่ปากน้ำ ห่างจากตัวเมืองระยอง 5 กม. บริเวณแหลมเจริญ สามารถสัมผัสได้ทั้งสองบรรยากาศในขณะเดียวกัน คือ บรรยากาศของทะเลและแม่น้ำ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลที่อยู่ไกล้ตัวเมืองมากที่สุด เหมาะสำหรับการไปผักผ่อนในช่วยบ่าย มีร้านอาหารทะเลสดที่ชาวระยองและนักท่องเที่ยวนิยมไปรับประทานอาหารกันมาก
 หาดแสงจันทร์
ตั้งอยู่ที่ตำบลปากน้ำใหม่ ห่างจากตัวเมืองระยอง 7 กม. เป็นชายหาดติดต่อกับหาดแหลมเจริญ เหมาะสำหรับการพักผ่อน สามารถเล่นน้ำทะเลได้ มีร้านอาหารและโรงแรมที่พักไว้บริการนักท่องเที่ยว
 หาดน้ำรินเป็นชาดทรายขนาดเล็ก ที่คนในท้องถิ่นนิยมไปนั่งพักผ่อน และนำอาหารไปรับประทานริมชายหาดในช่วงเย็น มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ห้องน้ำสาธารณะ ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ลานจอดรถ สัญลักษณ์ที่เด่นสะดุดตาของหาดแห่งนี้คือ หินแกะสลักรูปครอบครัวปลาพยูน ที่ตั้งอยู่บนโขดหินปลายชายหาด
 หาดพยูนและหาดพลาตั้งอยู่ในอำเภอบ้านฉาง อยู่ห่างจากตัวเมืองระยอง 32 และ 34 กม. ตามลำดับ เป็นชายหาดยาวติดต่อกัน มีความสวยงามและเงียบสงบ เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อน โดยเฉพาะที่หาดพลา มีสวนสนปลูกไว้หนาแน่น สวยงามและร่มรื่น และยังได้รับรางวัลชายหาดที่สะอาดที่สุดของจังหวัดระยอง มีโรงแรมระดับมาตรฐาน และมีบังกะโลให้ เลือกใช้บริการหลายแห่ง

อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว

Image10
Image
 
 แหล่งท่องเที่ยวที่ติดต่อและการเดินทางที่พัก-บริการ 
 จองที่พัก-บริการสิ่งอำนวยความสะดวกข่าว-กิจกรรม
Image6Image7Image8
Image9Image10Image11
Image12Image13Image14
Image15Image16Image17
Image18Image19Image20
Image21Image22Image23
Image24Image25Image26
Image27Image28Image29
 
  อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว  
View
Image3Image4Image5
 
อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว  
เป็นของคนไทยทุกคน โปรดช่วยกันรักษาไว้ให้ลูกหลานของเรา  
 
 ข้อมูลทั่วไป
อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอเมือง อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอขลุง และอำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี ประกอบด้วยป่าที่สมบูรณ์ เทือกเขาสูงสลับซับซ้อนเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย และมีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติ คือ น้ำตกพลิ้วที่สวยงาม มีน้ำตกตลอดปี เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป ซึ่งอยู่ห่างจากจังหวัดจันทบุรีประมาณ 14 กิโลเมตร ถนนลาดยางตลอดสายทำให้สะดวกสบายในการไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ มีเนื้อที่ประมาณ 134.50 ตารางกิโลเมตร หรือ 84,062.50 ไร่

ความเป็นมา : ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2502 ให้กำหนดป่าเขาสระบาป จังหวัดจันทบุรี และป่าอื่นๆ ในท้องที่จังหวัดต่างๆ รวม 14 ป่า เป็นอุทยานแห่งชาติ ในขั้นแรกกรมป่าไม้ได้กำหนดพื้นที่ที่ดินป่าน้ำตกพลิ้ว-เขาสระบาป ให้เป็นป่าสงวนแห่งชาติในปี พ.ศ. 2505 ออกตามพระราชบัญญัติคุ้มครองและสงวนป่า พุทธศักราช 2481 ลงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2504 และในปี พ.ศ. 2515 ได้ดำเนินการพัฒนาและปรับปรุงบริเวณน้ำตกพลิ้ว จัดตั้งเป็นวนอุทยานน้ำตกพลิ้ว อยู่ในความควบคุมดูแลของสำนักงานป่าไม้จังหวัดจันทบุรี

ในคราวประชุมคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2517 เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2517 ได้มีมติให้รีบดำเนินการประกาศพื้นที่ป่าที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2502 เป็นอุทยานแห่งชาติโดยเร็ว และจังหวัดจันทบุรีได้มีหนังสือด่วนมาก ที่ จบ.09/1401 ลงวันที่ 31 มกราคม 2517 ขอให้กรมป่าไม้ส่งเจ้าหน้าที่ไปประจำวนอุทยานน้ำตกพลิ้ว เพื่อปรับปรุงให้เป็นไปตามหลักการจัดการวนอุทยาน ประกอบกับในปี 2517 กองอุทยานแห่งชาติมีแผนงานจัดบริเวณดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติ ดังนั้นในเดือนมีนาคม 2517 กรมป่าไม้จึงมีคำสั่งที่ 360/2517 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2517 ให้นายสินไชย บูรณะเรข นักวิชาการป่าไม้ตรี และนายประชุม ตัณยะบุตร พนักงานโครงการชั้น 2 ไปทำการสำรวจหาข้อมูลบริเวณป่าน้ำตกพลิ้ว เขาสระบาป ในท้องที่จังหวัดจันทบุรี ปรากฏว่า บริเวณดังกล่าวประกอบด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อน เป็นต้นน้ำลำธาร เช่น น้ำตก หน้าผา ถ้ำ ตามหนังสือรายงานผลการสำรวจ ที่ กส 0708(อส)/7 ลงวันที่ 28 มิถุนายน 2517

กรมป่าไม้ได้นำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีมติในคราวประชุมครั้งที่ 6/2517 เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2517 เห็นชอบให้กำหนดที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าน้ำตกพลิ้ว-เขาสระบาป ในท้องที่ตำบลพลับพลา ตำบลคลองนารายณ์ ตำบลคมบาง อำเภอเมืองจันทบุรี ตำบลพลิ้ว อำเภอแหลมสิงห์ ตำบลมะขาม อำเภอมะขาม และตำบลมาบไพ ตำบลวังสรรพรส ตำบลตรอกนอง ตำบลซึ้ง ตำบลตะปอน ตำบลเกวียนหัก อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 92 ตอนที่ 87 ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2518 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 11 ของประเทศไทย โดยใช้ชื่อว่า " อุทยานแห่งชาติเขาสระบาป "

ต่อมานายผจญ ธนมิตรามณี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสระบาป ได้มีหนังสือ ที่ กษ 0708 (สบ)/พิเศษ ลงวันที่ 1 มีนาคม 2525 ขอเปลี่ยนชื่ออุทยานแห่งชาติเขาสระบาปเป็นอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว เนื่องจากน้ำตกพลิ้วเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามตามธรรมชาติเป็นจุดเด่นของอุทยานแห่งชาติ เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวและประชาชนโดยทั่วไปเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติได้มีมติในคราวประชุมครั้งที่ 3/2525 เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2525 เห็นชอบให้เปลี่ยนชื่อเป็น " อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว "
 ลักษณะภูมิประเทศ
สภาพทั่วไปเป็นเทือกเขาสูง มียอดเขาสลับซับซ้อนสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางตั้งแต่ 20-924 เมตร ค่อยๆ ลาดลงทางทิศใต้ มีที่ราบแคบๆ ทั่วไปบริเวณไหล่เขา พื้นที่มีความลาดชันสูง จุดสูงสุดของพื้นที่อยู่ที่ยอดเขามาบหว้ากรอก มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 924 เมตร ลักษณะทางธรณีวิทยาส่วนใหญ่เป็นหินอัคนีประเภทหินแกรนิต ในบริเวณตอนกลางของพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นเทือกเขาสูงชันสลับซับซ้อนที่ประกอบไปด้วยป่าดงดิบที่สมบูรณ์ ทำให้บริเวณนี้กลายเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย เช่น ห้วยตาโบ คลองโป่งแรด คลองนารายณ์ คลองสระบาป คลองคมบาง คลองนาป่า คลองพลิ้ว คลองน้ำแห้ง คลองหนองเสม็ด คลองตะปอนน้อย คลองตะปอนใหญ่ คลองขลุง คลองเคล คลองตรอกนอง และคลองมะกอก กระจายอยู่รอบพื้นที่
 ลักษณะภูมิอากาศ
สภาพอากาศระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ - เมษายน อากาศจะค่อนข้างร้อน ระหว่างเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม จะมีฝนตกชุกปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยปีละ 3,000 มม./ปี และระหว่างเดือนพฤศจิกายน- กุมภาพันธ์ อากาศจะเย็นสบายที่สุด อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 26 องศาเซลเซียส
 พืชพรรณและสัตว์ป่า
สภาพป่าทั่วไปเป็นป่าดงดิบชื้นที่สมบูรณ์ จัดอยู่ในเขตพฤกษศาสตร์อินโดไชน่าเนื่องจากอิทธิพลของทะเล มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ พุงทะลาย เคี่ยมคะนอง กระบกกรัง พนอง ตะเคียนหิน ยางแดง กฤษณา ตาเสือ พะวา ชะมวง จิกดง ปออีเก้ง และขนุนป่า ฯลฯ พืชพื้นล่างขึ้นปกคลุมพื้นป่าอีกหลายชนิด เช่น หัสคุณ ฆ้อนตีหมา แก้มขาว หวายลิง กะพ้อ ระกำ เต่าร้าง ไผ่ซี้ เร่วป่า ปุดใหญ่ และกระทือ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีพืชอิงอาศัยหลายชนิดเกาะอยู่ตามลำต้นและกิ่งก้าน ได้แก่ ชายผ้าสีดา กระแตไต่ไม้ ข้าหลวงหลังลาย เกล็ดนาคราช และกล้วยไม้นานาชนิด เช่น กะเรกะร่อน เหลืองจันทบูร และเอื้องมัจฉา ไม้เถาเลื้อยที่พบ ได้แก่ พญาปล้องทอง เถาคัน พญาเท้าเอว แสลงพันเถา หวายกำพวน หวายขริง และหวายเล็ก ฯลฯ

เนื่องจากสภาพป่าของอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วมีลักษณะเป็นผืนป่าธรรมชาติโดดเดี่ยวคล้ายป่าเกาะที่ถูกล้อมรอบด้วยพื้นที่เกษตรกรรมและชุมชนที่อยู่อาศัย ไม่มีผืนป่าธรรมชาติแห่งอื่นที่ต่อเนื่องหรือใกล้เคียง ประกอบกับพื้นที่มีขนาดไม่มากนัก ความหลากหลายของสัตว์ป่าในพื้นที่จึงมีน้อย ที่พบโดยทั่วไป ได้แก่ เลียงผา หมูป่า อีเห็นข้างลาย ลิงกัง ชะนีมงกุฎ ลิ่นชวา อีเห็นข้างลาย กระแตเหนือ กระรอกแดง ค้างคาวเล็บกุด ค้างคาวปีกถุงต่อมคาง หนูฟานเหลือง เป็ดแดง ไก่ป่า นกหกเล็กปากแดง นกกระปูดใหญ่ นกเด้าลมหลังเทา นกเฉี่ยวดงหางสีน้ำตาล นกขมิ้นน้อยสวน นกเขียวคราม นกปรอดทอง นกแซงแซวหางปลา นกกินแมลงอกเหลือง นกกระจิบสวน นกกางเขนดง นกกินปลีคอแดง นกสีชมพูสวน ตุ๊กแกป่าตะวันออก จิ้งจกหางแบน กิ้งก่าบินปีกสีส้ม จิ้งเหลนหลากหลาย ตะกวด งูลายสาบเขียวขวั้นดำ งูเขียวหัวจิ้งจกป่า คางคกบ้าน กบอ่อง เขียดตะปาด และอึ่งอ่างบ้านฯลฯ นอกจากนี้ยังมีปลาชนิดต่างๆ เช่น ปลาสร้อยขาว ปลากดหิน ปลาค้อ ปลาจิ้งจก ปลาพลวงหิน ปลากระทิง ปลาสร้อยลูกกล้วย เป็นต้น